การย้อมผ้าจากสีธรรมชาติ(natural fabric dyes)
ผ้าย้อมจากสีธรรมชาติ
1 สีย้อมผ้า
สีย้อมผ้า (Dyestuff) คือสีชนิดหนึ่งที่ใช้ย้อมผ้า มีทั้งสารอินทรีย์ และอนินทรีย์ สีย้อมบางชนิดจะละลายน้ำได้ บางชนิดต้องละลายในตัวทำละลายอินทรีย์เมื่อนำสีย้อมไปใช้ในกระบวนการย้อมจะทำให้โมเลกุลของสีย้อมซึมผ่านเข้าไปในโมเลกุลของเส้นใยโดยจะทำลายโครงสร้างผลึกของวัตถุนั้นชั่วคราว ซึ่งอาจเกิดพันธะไอออนิก (ionic bond) หรือพันธะโควาเลนท์ (covalent bond) กับวัตถุที่ต้องการย้อมโดยตรง
เราสามารถแบ่งสีย้อมออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ สีย้อมธรรมชาติ (natural dyestuffs) และสีย้อมสังเคราะห์ (synthetic dyestuffs)
โดยในที่นี้จะพูดถึงสีย้อมสังเคราะห์
สีย้อมผ้าที่นิยมใช้ในประเทศไทย มี 5 ประเภท คือ
สีรีแอคทีฟ (Reactive Dye)
สีดิสเพิร์ส (Disperse Dye)
สีแอซิด (Acid Dye)
สีแวต (Vat Dye)
สีไดเร็ก (Direct Dye)
ซึ่งสีแต่ละชนิด จะมีความสามารถในการย้อมที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับโครงสร้างของสีชนิดนั้นๆ รวมถึงการย้อมลงบนผ้า หรือเส้นใยที่แตกต่างกัน
2.วัสดุที่นำมาใช้ย้อมผ้า
- แก้วมังกร
แก้วมังกร หรือ Dragon fruit เป็นผลของต้นไม้ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hylocereus undatus (Haw.) (เนื้อสีขาว เปลือกสีแดงอมชมพู) หรือ H. polyrhizus (Weber) Britt. & Rose (เนื้อสีแดงเข้มอมม่วง และเปลือกสีแดงอมชมพู) ซึ่งเป็นพืชในวงศ์กระบองเพชร (CACTACEAE) มีถิ่นกำเนิดทางตอนใต้ของประเทศเม็กซิโกและประเทศใกล้เคียง และในประเทศไทยมีการปลูกมาตั้งแต่ พ.ศ. 2540 ซึ่งในระยะแรกผลที่ได้มีรสชาติไม่ค่อยอร่อย แต่ในเวลาต่อมาก็ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงสายพันธุ์เพื่อให้มีรสชาติที่ดียิ่งขึ้น ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของแก้วมังกรคือมีลำต้นเป็นปล้องสามเหลี่ยมแยกเป็น 3 แฉก มีลักษณะอวบน้ำ สีเขียวเข้มปนเทา ซึ่งเป็นส่วนของใบที่เปลี่ยนรูปร่างไป ส่วนลำต้นที่แท้จริงอยู่ในตำแหน่งที่เป็นศูนย์กลางของแฉกทั้ง 3 ที่ลำต้นด้านนอกมีหนามเป็นกลุ่มๆ มีรากทั้งในดินและรากอากาศ ดอกของแก้วมังกรเป็นดอกเดี่ยวขนาดใหญ่ มีเกสรเพศผู้จำนวนมาก มีก้านเกสรเพศเมีย 1 อัน ส่วนของกลีบดอกจะอยู่ด้านบนของรังไข่ เมื่อบานมีลักษณะคล้ายปากแตร โดยจะบานในช่วงหัวค่ำจนถึงเช้า มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ผลแก้วมังกรเป็นทรงกลม มีเนื้อหลายเมล็ด (berry) ที่ผลมีกลีบ ภายในผลเมื่อผ่าออกจะมีเนื้อสีขาวขุ่น ชมพู แดง หรือแดงอมม่วง (แล้วแต่ชนิด) เมล็ดมีขนาดเล็กสีดำ ลักษณะคล้ายเมล็ดงาดอกดาวเรือง - ดอกดาวเรือง เป็นดอกไม้ที่คุ้นตาคนไทยมาช้านาน เพราะเป็นดอกไม้ปลูกง่าย สีสันก็สวยสดใสสะดุดตา ซึ่งนอกจากจะมีให้เห็นในบ้านเราแล้ว ในต่างประเทศก็รู้จักดอกดาวเรืองด้วยเช่นกันค่ะ โดยภาษาอังกฤษจะเรียกกันว่า Marigold เนื่องจากมีสีเหลืองทอง ส่วนในชื่อวิทยาศาสตร์ก็จะเรียกกันว่า Tagetes erecta L. เป็นดอกไม้ในวงศ์ Asteraceae และนอกจากนี้ ในบ้านเรายังมีชื่อเรียกต่างกันตามท้องถิ่นด้วย โดยภาษาเหนือ หรือในภาคเหนือจะเรียกว่า ดอกคำปู้จู้ หรือในแถบแม่ฮ่องสอนจะเรียกว่า พอทู ส่วนถิ่นกำเนิดของดอกดาวเรืองเริ่มต้นที่ประเทศเม็กซิโกและแถบทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งชาวท้องถิ่นปลูกไว้เพื่อบูชาเทพเจ้า ก่อนจะมีผู้นำไปขยายพันธุ์ในทวีปยุโรป แต่ต่อมาก็ได้ขยายพันธุ์ไปในประเทศต่างๆ เกือบทั่วโลก โดยปัจจุบันก็มีอยู่ด้วยกันถึง 5 สายพันธุ์ ได้แก่ ดาวเรืองอเมริกัน (American marigold), ดาวเรืองฝรั่งเศส (French Marigolds), ดาวเรืองนักเก็ต (Nugget Marigolds), ดาวเรืองซิกเน็ต (Signet Marigold), ดาวเรืองใบ (Foliage Marigold) นอกจากนี้ ดอกดาวเรืองยังเป็นพืชเศรษฐกิจทั้งในอียิปต์ สเปน และฝรั่งเศส อีกด้วย
- ดอกอัญชัน (ชื่อวิทยาศาสตร์: Clitoria ternatea L.) เป็นไม้เลื้อย ลำต้นมีขนนุ่ม มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ ปลูกได้ทั่วไปในเขตร้อน มีชื่อพื้นเมืองอื่นอีกคือแดงชัน (เชียงใหม่), เอื้องชัน, แดงชัญ เมื่อคั้นออกมาจะได้เป็นสีม่วงอัญชันเป็นไม้เลื้อยเนื้ออ่อน อายุสั้น ใช้ยอดเลื้อยพัน ลำต้นมีขนปกคลุม ใบประกอบแบบขนนก เรียงตรงข้ามยาว 6-12 เซนติเมตร มีใบย่อยรูปไข่ 5-7 ใบ กว้าง 2-3 เซนติเมตร ยาว 3-5 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบมน ผิวใบด้านล่างมีขนหนาปกคลุม ดอกสีขาว ฟ้า และม่วง ดอกออกเดี่ยว ๆ รูปทรงคล้ายฝาหอยเชลล์ออกเป็นคู่ตามซอกใบ กลีบดอก 5 กลีบ ดอกบานเต็มที่ยาว 2.5-3.5 เซนติเมตรกลีบคลุมรูปกลม ปลายเว้าเป็นแอ่ง ตรงกลางมีสีเหลือง มีทั้งดอกซ้อนและดอกลา ดอกชั้นเดียวกลีบขั้นนอกมีขนาดใหญ่กลางกลีบสีเหลือง ส่วนกลีบชั้นในขนาดเล็กแต่ดอกซ้อนกลีบดอกมีขนาดเท่ากัน ซ้อนเวียนเป็นเกลียว[2] ออกดอกเกือบตลอดปี ผลแห้งแตก เป็นฝักแบน กว้าง 1-1.5 เซนติเมตร ยาว 5-8 เซนติเมตร เมล็ดรูปไต สีดำ มี 5-10 เมล็ด
3.วัสดุอุปกรณ์
- ผ้าสำหรับย้อม
- สารส้ม
- ปูนแดง
- ดอกดาวเรือง
- ดอกอัญชัน
- แก้งมังกร
4.ขั้นตอนวิธีการทำ
ผ้าย้อมสีจากดอกดาวเรือง
- นำน้ำใส่หม้อตั้งไฟให้น้ำเดือด จากนั้นตักดาวเรืองใส่ลงไปในหม้อ ต้มทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
- ใช้ผ้าขาวบางกรองเศษดอกดาวเรืองออกให้เหลือแต่น้ำ
- นำหม้อน้ำดอกดาวเรืองมาตั้งไฟอ่อนๆ ให้น้ำมีความอุ่น จากนั้นเติมสารส้มลงไปเล็กน้อย แล้วใส่ผ้าที่เราเตรียมไว้ลงไป ต้มทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง
- นำผ้าขึ้นจากหม้อแล้วนำไปล้างน้ำสะอาดประมาณ 3-4 รอบ แล้วนำผ้าไปตาก
ผ้าย้อมสีจากแก้วมังกร
- นำเปลือกของแก้วมังกรมาสับให้เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปต้มในน้ำเดือด ประมาณ 30นาที
- ใช้ผ้าขาวบางกรองส่วนที่ไม่ได้ใช้ออกให้เหลือแต่น้ำต้มแก้วมังกร
- นำหม้อที่ต้มน้ำแก้วมังกรมาตั้งไฟอ่อนๆ แล้วเติมสารส้มลงไปเล็กน้อย
- จากนั้นนำผ้าที่เตรียมไว้ลงไปต้มประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง
- นำผ้าขึ้นจากหม้อแล้วนำไปล้างน้ำสะอาดประมาณ 3-4 รอบ แล้วนำผ้าไปตาก
ผ้าย้อมสีจากดอกอัญชัน
- นำดอกอัญชัมาเด็ด แล้วนำไปต้มในน้ำเดือด
- นำหม้อน้ำอัญชันมาตั้งไฟอ่อนๆ ให้น้ำมีความอุ่น จากนั้นเติมสารส้มลงไปเล็กน้อย แล้วใส่ผ้าที่เราเตรียมไว้ลงไป ต้มทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง
- นำผ้าขึ้นจากหม้อแล้วนำไปล้างน้ำสะอาดประมาณ 3-4 รอบ แล้วนำผ้าไปตาก
คลิปวิดีโอตัวอย่างวิธีการทำ
อ้างอิง
เทคโนโลยีชาวบ้าน. 2564. ภูมิปัญญาไทย. สืบค้นเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2564. จากhttps://www.technologychaoban.com/thai-local-wisdom/
บุญชม ศรีสะอาด. 2553. การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่8). กรุงเทพฯ:สุวีริยาสาส์น.
Health. 2562. สรรพคุณดีๆของแก้วมังกร. สืบค้นเมื่อ 29 มกราคม 2564. จากhttps://www.chiangmainews.co.th/page/archives/1164808/
Navy. 2559. ความรู้เกี่ยวกับสีย้อมผ้า(Dyestuffs). สืบค้นเมื่อ 29 มกราคม 2564. จากhttp://thailandindustrial.blogspot.com/2016/09/dyestuffs.html
Health. 2562. สรรพคุณดีๆของแก้วมังกร. สืบค้นเมื่อ 29 มกราคม 2564. จากhttps://www.chiangmainews.co.th/page/archives/1164808/